วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ผ่าตลับหมึก HP 21(ดำ) เพื่อเสริมอึ๋ม






สำหรับผู้ที่ใช้เครื่องพิมพ์ชนิด inkjet ยี่ห้อ HP คงจะคุ้นเคยกับตลับ 2 รุ่นนี้ดี
เนื่องจากเป็นตลับที่ใช้กับเครื่องพิมพ์ HP series 2400,3900,4100 ฯลฯ
ซึ่งเป็นเครื่องพิมพ์รุ่นราคาถูก เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
.
ราคาตลับหมึกที่ไม่แพง หาซื้อได้ง่ายมีขายแทบทุกร้านทำให้มีผู้ใช้ตลับหมึก 2 รุ่นนี้มากมาย
ซื้อเครื่องใหม่มาก็จะแถมตลับหมึกสีดำเบอร์ 21 และตลับหมึกสีเบอร์ 22 (3 สี) มาให้
จะมีข้อเสียก็ตรงตลับหมึกดำเบอร์ 21 ที่แถมมากับเครื่องจุหมึกได้น้อย
สังเกตได้จากฉลากที่ติดไว้บนตลับจะมีคำว่า “introductory”
ประมาณว่าแถมมาให้ทดลองใช้ เวลาหมึกหมดเติมหมึกได้แค่ 2-3 ซีซีก็ล้นแล้ว
.
อืม .. ตลับก็ใหญ่ทำไมจุหมึกได้น้อย ต้องพิสูจน์ให้รู้จริง
.
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ผมจึงจัดการผ่าเอาฝาตลับเบอร์ 21 ออก เพื่อดูตับไตไส้พุงข้างใน
(ใช้คัตเตอร์อันใหญ่+ค้อน ค่อย ๆตอกเหมือนผ่าฟืนยังไงยังงั้น)





ชะแว๊บ ... เมื่อฝาถูกเปิดออก ความลับก็ไม่เป็นความลับอีกต่อไป
จะเห็นตลับถูกแบ่งเป็น 2 ช่อง
ช่องเล็กตรงกับหัวพิมพ์มีฟองน้ำก้อนนึงไม่ใหญ่มาก (ที่เห็นสีขาว ๆเปื้อนหมึกดำนั่นล่ะครับ)
ช่องใหญ่เป็นที่ว่างเปล่า ไม่มีฟองน้ำ ไม่มีน้ำหมึกอะไรเลย
ไฉนที่ว่างจึงเหลือตั้งมากมาย อย่ากระนั้นเลยหาทางใช้ประโยชน์ดีกว่า
ผมจึงจัดการเอาคีมดึงฟองน้ำออกจากช่องเล็ก เห็นหัวพิมพ์แวบ ๆอยู่ข้างล่าง







วิธี Reset ตลับหมึก HP

* * ใช้ Reset ให้เครื่องยอมรับตลับหมึก อย่าเสี่ยงใช้ Reset ให้หมึกเต็ม
เพราะถ้าทำผิดขั้นตอนจะทำให้ตลับเสีย เครื่องเตือนหมึกหมดก็ไม่ต้องสนใจ reset ตราบใดที่ยังพิมพ์งานได้ครับ * *

** สำหรับเครื่องที่มีไฟเตือนหมึกหมด ไม่ต้องสนใจไฟกระพริบเตือน
(ปกติจะมีไฟเตือนตลับสีและตลับดำ) ให้สนใจเฉพาะไฟเตือน "!" **

อย่า reset โดยพร่ำเพรื่อครับ กรณีขึ้นตัว "E" ให้ตรวจเช็คดูก่อน
1. กระดาษหมดก็จะขึ้นตัว "E"
2. ลองเปิดฝา แล้วปิดใหม่ ตัว "E" อาจจะหายไปเอง
3. ถอดตลับออกมาเช็ดทำความสะอาด ที่ปุ่มทองแดงตัวตลับและปุ่มทองแดงในช่องรับตลับหมึก
4. ได้ทำการ Alignment ครบทุกขั้นตอนหรือไม่
เพราะทุกครั้งที่เครื่องพิมพ์หน้า Alignment ออกมา
ต้องเอาหน้านั้นวางคว่ำบนกระจกแล้วกดปุ่ม Scan 1 ครั้ง ถึงจะครบขั้นตอน


ปกติเวลาถอดตลับหมึกออกจากเครื่องพิมพ์ยี่ห้อ HP ต้องตัดไฟก่อนครับ
ไม่งั้นเครื่องพิมพ์จะจำ ID ของตลับหมึกไว้
หากไม่ตัดไฟก่อนถอดตลับ พอถอดเข้า ๆออก ๆไม่กี่รอบขึ้นไฟแดงไม่รับตลับหมึก
อย่าเพิ่งตกใจครับพี่น้อง ตลับไม่ได้เสีย ลองเอาไปใส่เครื่องอื่นใช้งานได้ฉลุย
แต่ถ้าจะใช้กับเครื่องเดิม ต้อง Reset ครับ โดยมีขั้นตอนดังนี้

สำหรับตลับสีดำ (เบอร์ 21, 27, 56, 58)
ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ โดยไม่จำเป็นต้องตัดไฟก่อนถอด+ใส่ ตลับนะครับ

1. ถอดตลับออกมาติด เทปตรงปุ่มทองแดง #1
2. ใส่ตลับเข้าเครื่องพิมพ์ เครื่องขึ้นไฟแดงไม่รับตลับหมึก
3. ถอดตลับออกมาติดเทปตรงปุ่มทองแดง #2 (ปุ่ม #1ก็ติดเทปอยู่ยังไม่ต้องแกะออก)
4. ใส่ตลับเข้าเครื่องพิมพ์ เครื่องขึ้นไฟแดงไม่รับตลับหมึก
5. ถอดตลับออกมา แกะเทป #1 #2 ออก
6. ใส่ตลับเข้าเครื่องพิมพ์ OK พร้อมใช้งาน










วิธี reset ตลับดำเบอร์ 74 จากคุณฟรอนเทียร์683

สำหรับตลับสี (เบอร์ 22, 28, 57)
1. ถอดตลับออกมาติด เทปตรงปุ่มทองแดง #1
2. ใส่ตลับเข้าเครื่องพิมพ์ เครื่องขึ้นไฟแดงไม่รับตลับหมึก
3. ถอดตลับออกมาติดเทปตรงปุ่มทองแดง #2 (ปุ่ม #1ก็ติดเทปอยู่ยังไม่ต้องแกะออก)
4. ใส่ตลับเข้าเครื่องพิมพ์ เครื่องขึ้นไฟแดงไม่รับตลับหมึก
5. ถอดตลับออกมา แกะเทป #1 #2 ออก
6. ใส่ตลับเข้าเครื่องพิมพ์ OK พร้อมใช้งาน









วิธี reset ตลับสีเบอร์ 75 จากคุณฟรอนเทียร์683

ข้อควรระวัง
=======
การถอดตลับเข้า-ออกบ่อย ๆ เวลาใส่อย่ากระแทกแรงนะครับ
ลายทองแดงบนตลับหมึก จะโดนกระแทกบุ๋มมากขึ้นเรื่อย ๆ
จนในที่สุดบุ๋มลึกไม่สัมผัสกับปุ่มทองแดงในเครื่อง ไม่ครบวงจร
เครื่องมองไม่เห็นตลับ ถ้าเอายางลบถูลายทองแดงไม่หายก็ต้องซื้อตลับใหม่

วิธี Hard Reset
============
วิธีนี้ก็สามารถ Reset ตลับหมึกให้กลับมาใช้ได้อีกครั้ง
ซึ่งทาง HP เปิดช่องทางแก้นี้ไว้ให้สำหรับเครื่องบางรุ่น
ทำให้ระบบป้องกันหมึกเติมของ HP ไม่โหดเกินไปนัก

1. เปิดเครื่อง เปิดฝาให้ตลับเลื่อนมาแล้วถอดตลับออกทั้ง 2 ตลับ
2. ปิดฝา ปิดเครื่อง ดึงปลั๊กไฟออก ปลั๊ก USB ออก
3. ตั้งเครื่องทิ้งไว้ 10 นาที หรือทั้งคืนก็ยิ่งดี เพื่อให้ไฟที่เลี้ยงหน่วยความจำหมดไป
4. เมื่อไฟหมด เครื่องก็ความจำเสื่อม ไม่สามารถจำเบอร์ ID ของตลับหมึกได้อีก
5. ประกอบเครื่องเข้าใหม่อีกครั้ง เหมือนตอนเพิ่งซื้อเครื่องมาใหม่ ๆ
6. เปิดเครื่อง เครื่องร้องเรียกหาตลับหมึกก็ใส่ตลับหมึกเข้าไป

ปล. บางรุ่นจะมีแบตกลมอยู่ข้างในเครื่อง ถ้าถอดแบตออกก็เท่ากับ reset ไปในตัว

วิธีใช้ตลับ 3 ชุด reset
=============
เครื่องพิมพ์ HP จะมีหน่วยความจำ สามารถจำ ID ของตลับได้ 2 ตลับเท่านั้น
ดังนั้นถ้าเราสามารถหาตลับจากที่อื่นมา 2 ชุด ก็สามารถใส่ล่อหลอกเครื่องได้
ตลับของเราที่เครื่องไม่ยอมรับ (เพราะจำ ID ได้) ใส่เป็นชุดที่ 3 ก็จะสามารถใช้งานได้อีกครั้ง

ปล. ผมเคยลองใช้วิธีนี้กับตลับเบอร์ 21-22 ได้ผลดี ไฟหายกระพริบ+เครื่องมองเป็นตลับใหม่+หมึกเต็ม


------------------------------------------------------------------------
อย่างไรก็ตาม พบว่าเครื่องรุ่นใหม่ที่ออกมาขายในท้องตลาด
เริ่มมีการล๊อคตลับแถม (Introductory) สามารถเติมหมึกได้ไม่กี่ครั้ง
พิมพ์งานได้ประมาณ 300 กว่าหน้า เครื่องจะล๊อคตลับแถม
แต่ถ้าผู้ใช้ตัดไฟก่อนถอด-ใส่ ตลับหมึกทุกครั้งไม่พลาดเลย
ก็สามารถเติมหมึกพิมพ์งานไปเรื่อย ๆ

ตลับแถมที่ถูกล๊อคไม่ได้เสีย แต่เครื่องที่ผ่านการพิมพ์งาน 300 กว่าหน้า
จะไม่รับตลับแถม

ซึ่งเท่าที่พบมีเครื่อง F2235 ซึ่งใช้ตลับ 21-22
เครื่อง F2480 ซึ่งใช้ตลับ 60
วิธี Reset ตลับหมึก HP


* * ใช้ Reset ให้เครื่องยอมรับตลับหมึก อย่าเสี่ยงใช้ Reset ให้หมึกเต็ม
เพราะถ้าทำผิดขั้นตอนจะทำให้ตลับเสีย เครื่องเตือนหมึกหมดก็ไม่ต้องสนใจ reset ตราบใดที่ยังพิมพ์งานได้ครับ * *

** สำหรับเครื่องที่มีไฟเตือนหมึกหมด ไม่ต้องสนใจไฟกระพริบเตือน
(ปกติจะมีไฟเตือนตลับสีและตลับดำ) ให้สนใจเฉพาะไฟเตือน "!" **

อย่า reset โดยพร่ำเพรื่อครับ กรณีขึ้นตัว "E" ให้ตรวจเช็คดูก่อน
1. กระดาษหมดก็จะขึ้นตัว "E"
2. ลองเปิดฝา แล้วปิดใหม่ ตัว "E" อาจจะหายไปเอง
3. ถอดตลับออกมาเช็ดทำความสะอาด ที่ปุ่มทองแดงตัวตลับและปุ่มทองแดงในช่องรับตลับหมึก
4. ได้ทำการ Alignment ครบทุกขั้นตอนหรือไม่
เพราะทุกครั้งที่เครื่องพิมพ์หน้า Alignment ออกมา
ต้องเอาหน้านั้นวางคว่ำบนกระจกแล้วกดปุ่ม Scan 1 ครั้ง ถึงจะครบขั้นตอน


ปกติเวลาถอดตลับหมึกออกจากเครื่องพิมพ์ยี่ห้อ HP ต้องตัดไฟก่อนครับ
ไม่งั้นเครื่องพิมพ์จะจำ ID ของตลับหมึกไว้
หากไม่ตัดไฟก่อนถอดตลับ พอถอดเข้า ๆออก ๆไม่กี่รอบขึ้นไฟแดงไม่รับตลับหมึก
อย่าเพิ่งตกใจครับพี่น้อง ตลับไม่ได้เสีย ลองเอาไปใส่เครื่องอื่นใช้งานได้ฉลุย
แต่ถ้าจะใช้กับเครื่องเดิม ต้อง Reset ครับ โดยมีขั้นตอนดังนี้

สำหรับตลับสีดำ (เบอร์ 21, 27, 56, 58)
ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ โดยไม่จำเป็นต้องตัดไฟก่อนถอด+ใส่ ตลับนะครับ

1. ถอดตลับออกมาติด เทปตรงปุ่มทองแดง #1
2. ใส่ตลับเข้าเครื่องพิมพ์ เครื่องขึ้นไฟแดงไม่รับตลับหมึก
3. ถอดตลับออกมาติดเทปตรงปุ่มทองแดง #2 (ปุ่ม #1ก็ติดเทปอยู่ยังไม่ต้องแกะออก)
4. ใส่ตลับเข้าเครื่องพิมพ์ เครื่องขึ้นไฟแดงไม่รับตลับหมึก
5. ถอดตลับออกมา แกะเทป #1 #2 ออก
6. ใส่ตลับเข้าเครื่องพิมพ์ OK พร้อมใช้งาน





วิธี reset ตลับดำเบอร์ 74 จากคุณฟรอนเทียร์683

สำหรับตลับสี (เบอร์ 22, 28, 57)
1. ถอดตลับออกมาติด เทปตรงปุ่มทองแดง #1
2. ใส่ตลับเข้าเครื่องพิมพ์ เครื่องขึ้นไฟแดงไม่รับตลับหมึก
3. ถอดตลับออกมาติดเทปตรงปุ่มทองแดง #2 (ปุ่ม #1ก็ติดเทปอยู่ยังไม่ต้องแกะออก)
4. ใส่ตลับเข้าเครื่องพิมพ์ เครื่องขึ้นไฟแดงไม่รับตลับหมึก
5. ถอดตลับออกมา แกะเทป #1 #2 ออก
6. ใส่ตลับเข้าเครื่องพิมพ์ OK พร้อมใช้งาน




วิธี reset ตลับสีเบอร์ 75 จากคุณฟรอนเทียร์683

ข้อควรระวัง
=======
การถอดตลับเข้า-ออกบ่อย ๆ เวลาใส่อย่ากระแทกแรงนะครับ
ลายทองแดงบนตลับหมึก จะโดนกระแทกบุ๋มมากขึ้นเรื่อย ๆ
จนในที่สุดบุ๋มลึกไม่สัมผัสกับปุ่มทองแดงในเครื่อง ไม่ครบวงจร
เครื่องมองไม่เห็นตลับ ถ้าเอายางลบถูลายทองแดงไม่หายก็ต้องซื้อตลับใหม่

วิธี Hard Reset
============
วิธีนี้ก็สามารถ Reset ตลับหมึกให้กลับมาใช้ได้อีกครั้ง
ซึ่งทาง HP เปิดช่องทางแก้นี้ไว้ให้สำหรับเครื่องบางรุ่น
ทำให้ระบบป้องกันหมึกเติมของ HP ไม่โหดเกินไปนัก

1. เปิดเครื่อง เปิดฝาให้ตลับเลื่อนมาแล้วถอดตลับออกทั้ง 2 ตลับ
2. ปิดฝา ปิดเครื่อง ดึงปลั๊กไฟออก ปลั๊ก USB ออก
3. ตั้งเครื่องทิ้งไว้ 10 นาที หรือทั้งคืนก็ยิ่งดี เพื่อให้ไฟที่เลี้ยงหน่วยความจำหมดไป
4. เมื่อไฟหมด เครื่องก็ความจำเสื่อม ไม่สามารถจำเบอร์ ID ของตลับหมึกได้อีก
5. ประกอบเครื่องเข้าใหม่อีกครั้ง เหมือนตอนเพิ่งซื้อเครื่องมาใหม่ ๆ
6. เปิดเครื่อง เครื่องร้องเรียกหาตลับหมึกก็ใส่ตลับหมึกเข้าไป

ปล. บางรุ่นจะมีแบตกลมอยู่ข้างในเครื่อง ถ้าถอดแบตออกก็เท่ากับ reset ไปในตัว

วิธีใช้ตลับ 3 ชุด reset
=============
เครื่องพิมพ์ HP จะมีหน่วยความจำ สามารถจำ ID ของตลับได้ 2 ตลับเท่านั้น
ดังนั้นถ้าเราสามารถหาตลับจากที่อื่นมา 2 ชุด ก็สามารถใส่ล่อหลอกเครื่องได้
ตลับของเราที่เครื่องไม่ยอมรับ (เพราะจำ ID ได้) ใส่เป็นชุดที่ 3 ก็จะสามารถใช้งานได้อีกครั้ง

ปล. ผมเคยลองใช้วิธีนี้กับตลับเบอร์ 21-22 ได้ผลดี ไฟหายกระพริบ+เครื่องมองเป็นตลับใหม่+หมึกเต็ม


------------------------------------------------------------------------
อย่างไรก็ตาม พบว่าเครื่องรุ่นใหม่ที่ออกมาขายในท้องตลาด
เริ่มมีการล๊อคตลับแถม (Introductory) สามารถเติมหมึกได้ไม่กี่ครั้ง
พิมพ์งานได้ประมาณ 300 กว่าหน้า เครื่องจะล๊อคตลับแถม
แต่ถ้าผู้ใช้ตัดไฟก่อนถอด-ใส่ ตลับหมึกทุกครั้งไม่พลาดเลย
ก็สามารถเติมหมึกพิมพ์งานไปเรื่อย ๆ

ตลับแถมที่ถูกล๊อคไม่ได้เสีย แต่เครื่องที่ผ่านการพิมพ์งาน 300 กว่าหน้า
จะไม่รับตลับแถม

ซึ่งเท่าที่พบมีเครื่อง F2235 ซึ่งใช้ตลับ 21-22
เครื่อง F2480 ซึ่งใช้ตลับ 60

วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2554

How to convert VA to Watts and KVA

How to convert VA to Watts and KVA to Kilowatts
http://www.dieselserviceandsupply.com/power_calculator.aspx
เอา 1.25xKw = KVa

Basics

Since watts is volts times amps, what is VA? VA (or volt-amps) is also volts times amps, the concept however has been extended to AC power. For DC current

VA = Watts (DC current).

In AC if the volts and amps are in phase (for example a resistive load) then the equation is also

VA=Watts (resistive load)

where V is the RMS voltage and A the RMS amperage.

In AC the volts and amps are not always in phase (meaning that the peak of the voltage curve is does not happen at the peak of the current curve). So in AC, if the volts and amps are not precisely in phase you have to calculate the watts by multiplying the volts times the amps at each moment in time and take the average over time. The ratio between the VA (i.e. rms volts time rms amps) and Watts is called the power factor PF.

VA·PF = Watts (any load, including inductive loads)


In other words, volt-amps x power factor = watts. Similarly, KVA*PF = KW,
Or kilovolt-amps times power factor equals kilowatts.
When you want to know how much the electricity is costing you, you use watts. When you are specifying equipment loads, fuses, and wiring sizes you use the VA, or the rms voltage and rms amperage. This is because VA considers the peak of both current and voltage, without taking into account if they happen at the same time or not


Finding the Power Factor
How do you find the power factor? This isn’t easy. For computer power supplies and other supplies that are power factor corrected the power factor is usually over 90%. For high power motors under heavy load the power factor can be as low as 35%.

Industry standard rule-of-thumb is that you plan for a power factor of 60%, which somebody came up with as a kind of average power factor.

Converting VA to Amps

How to convert VA to amps? Use the following formula:



Where A stands for the RMS amps, VA stands for volt-amps, V stands for RMS volts and PF stands for the power factor.

Converting VA to Volts

How to convert VA to volts? Use the following formula:



Where V stands for RMS volts, A stands for the RMS amps, VA stands for volt-amps, and PF stands for the power factor.

What is KVA?

KVA is just kilovolt-amps, or volts times amps divided by 1000:

KVA·PF = KW (any load, including inductive loads)

Where KVA stands for kilovolt-amps, KW stands for kilowatts, and PF stands for the power factor.


Keep the factor of 1000 straight when dealing with mixed units:
KVA·PF = W/1000 (any load, including inductive loads)

VA·PF = 1000·KW (Kilowatts to VA)


The Following equations can be used to convert beween amps, volts, and VA. To convert between kilovolt-amps, kilowatts, and kiloamps, keep track of the factor of 1000.

Convert VA to Amps (at a fixed voltage)
Convert KVA to KW (kilovolt-amps to kilowatts)
Convert KVA to Amps (at a fixed voltage)
Converting Watts to KVA (watts to kilovolt-amps)
Convert Amps to VA (at a fixed voltage)
Convert VA to Volts (at a fixed current)
Convert Volts to VA (at a fixed current)
Convert Volts to Amps (at a fixed VA)
Convert Amps to Volts (at a fixed VA)

Converting VA to Amps (voltage fixed)

The conversion of VA to Amps is governed by the equation Amps = VA·PF/Volts)

For example 12 VA·0.6/(12 volts) = 0.6 amp

Converting KVA to KW (Kilovolt-amps to Kilowatts)

The conversion of KVA to KW is governed by the equation KVA = KW/PF)

For example, if the power factor is 0.6
120 KVA·0.6 = 72 Kilowatts

Converting Watts to KVA (watts to kilovolt-amps)

The conversion of W to KVA is governed by the equation KVA=W/(1000*PF)


For example 1500W/(1000*0.83) = 1.8 kVA (assuming a power factor of 0.83)
F
Converting Amps to VA (voltage fixed)

The conversion of Amps to VA is governed by the equation VA = Amps · Volts/PF

For example 1 amp * 110 volts/0.6 = 183 VA


Converting Amps to KVA (voltage fixed)

The conversion of Amps to KVA is governed by the equation KVA = Amps · Volts/(1000·PF)

For example 100 amp * 110 volts/(1000*0.6) = 18.3 KVA

Converting VA to Volts (current fixed)

The conversion of VA to Volts is governed by the equation Volts = VA·PF/Amps

For example 100 VA · 0.6/10 amps = 6 volts

Converting Volts to VA (current fixed)

The conversion of Volts to VA is governed by the equation VA = Amps · Volts/PF

For example 1.5 amps * 12 volts/0.6 = 30 VA

Converting Volts to Amps at fixed VA

The conversion of Volts to Amps is governed by the equation Amps = VA·PF/Volts

For example 120 VA* 0.6 /110 volts = 0.65 amps

Converting Amps to Volts at fixed VA

The conversion of Amps to Volts is governed by the equation Volts = VA·PF/Amps

For Example, 48 VA · 0.6 / 12 Amps = 2.4 Volts

Explanation

Amps are how many electrons flow past a certain point per second. Volts is a measure of how much force that each electron is under. Think of water in a hose. A gallon a minute (think amps) just dribbles out if it is under low pressure (think voltage). But if you restrict the end of the hose, letting the pressure build up, the water can have more power (like watts), even though it is still only one gallon a minute. In fact the power can grow enormous as the pressure builds, to the point that a water knife can cut a sheet of glass. In the same manner as the voltage is increased a small amount of current can turn into a lot of watts.

วันจันทร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554

แปลงไฟล์ในแผ่น AVCHD (m2ts) เป็นไฟล์ MKV

AVCHD (Advanced Video Codec High Definition) เป็นไฟล์วิดีโอความละเอียดสูง ซึ่งเรามักเห็นกันในแผ่น DVD หรือสื่อบันทึกข้อมูลอื่นๆ พวกกล้องวิดีโอ คุณภาพนั้นก็ด้อยกว่าภาพ Blu-ray ไม่เท่าไหร่ครับ แต่จุดเด่นที่ชัดเจนกว่าคือขนาดไฟล์ที่มีขนาดเล็ก เพราะใช้การเข้ารหัสไฟล์แบบ MPEG-4 AVC (H.264) ทำให้สามารถบรรจุหนังความละเอียดสูงลงแผ่น DVD5 เพียงแผ่นเดียวเท่านั้น
อย่างไรก็ตามแม้มีข้อดีแต่ก็มีข้อด้อยอยู่เหมือนกัน กล่าวคือหากนำแผ่นดังกล่าวมาเล่นในคอมพิวเตอร์ หรือเครื่องเล่นที่ไม่ได้มีตัวถอดรหัสโดยเฉพาะก็จะเล่นไม่ได้ การเล่นในคอมพิวเตอร์นั้น เราสามารถซิกแซกได้ด้วยการเข้าไปเปิดไฟล์โดยตรงที่โฟลเดอร์ [ไดรฟ์]:\BDMV\STREAM โดยไฟล์ที่อยู่ในโฟลเดอร์นั้นจะเป็นไฟล์นามสกุล m2ts เราเพียงลากไฟล์ดังกล่าวมาวางบนหน้าต่างโปรแกรม KMPlayer ก็เล่นได้แล้ว และเพื่อความสะดวกยิ่งขึ้น ควรแปลงไฟล์ดังกล่าวเป็นไฟล์แบบ MKV ด้วยวิธีการดังนี้ครับ

หมายเหตุ
วิธีการทำนี้อาจจะกล่าวได้ว่าไม่ได้เป็นการแปลงเนื้อในภาพวิดีโอ เพียงแต่เปลี่ยนการเปลี่ยนเสื้อผ้า ซึ่งจะใช้เวลาในการทำรวดเร็วมากประมาณ 2 –3 นาทีก็เสร็จแล้ว (ทดสอบจากฮาร์ดดิสก์แบบ Raid 0 หนังหนึ่งเรื่องใช้เวลา 106 วินาที)

ใช้โปรแกรมในการทำ 2 โปรแกรมคือ
tsMuxeR [url= http://www.videohelp.com/tools/tsMuxeR ]download[/url]

mkvmerge GUI http://www.videohelp.com/tools/MKVtoolnix

1. เปิดโปรแกรม tsMuxeR ขึ้นมาดังรูปด้านล่างนี้ คลิกปุ่ม Add

2. คลิกเลือกนำไฟล์ m2ts ที่อยู่ในโฟลเดอร์ [ไดรฟ์]:\BDMV\STREAM เข้ามาในโปรแกรม



3. เมื่อนำไฟล์เข้ามาในโปรแกรมเสร็จแล้ว คลิกเลือก Demux เพื่อทำการแยกไฟล์ภาพ และไฟล์เสียงออกมาจากไฟล์ m2ts

4. คลิกปุ่ม Browse เลือกตำแหน่งสำหรับบันทึกไฟล์

5. คลิกปุ่ม Start Demuxing โปรแกรมจะเริ่มการแยกไฟล์ภาพและเสียงออกให้ทันที


ไฟล์ภาพที่แยกได้ตามตัวอย่างนี้ นามสกุล .264 ส่วนไฟล์เสียงนามสกุล .dts (เป็นเสียงแบบ DTS)



6. เปิดโปรแกรม mkvmerge GUI ขึ้นมา คลิกปุ่ม Add เพื่อนำไฟล์ภาพและเสียงที่แยกเสร็จแล้ว เข้ามาในโปรแกรม

7. คลิกเลือกบรรทัดของไฟล์ภาพ และคลิกที่แท็บ Format specific options เพื่อกำหนดค่า FPS (เฟรมเรท) ของภาพ หากคุณไม่กำหนดตัวโปรแกรมจะใช้ค่ามาตรฐานคือ 25 FPS ตามตัวอย่างนี้ภาพวิดีโอของผมมี FPS: 23.976
ถ้าคุณอยากจะรู้ว่าเฟรมเรทของภาพคุณเท่าไหร่ กดปุ่ม alt + j ระหว่างที่เล่นไฟล์ผ่านโปรแกรม KMPlayer นะครับ จะมีรายละเอียดแสดงขึ้นมาให้เห็น

8. คลิกปุ่ม Browse เลือกตำแหน่งสำหรับบันทึกไฟล์ จากนั้นก็คลิกปุ่ม Start musing โปรแกรมจะรวมไฟล์ภาพและเสียง ให้กลายเป็นไฟล์ mkv ทันที

MKV 2 Blue-ray

หลังจากเขียนบทความ แปลงไฟล์ในแผ่น AVCHD (m2ts) เป็นไฟล์ MKV คราวนี้เรามาแปลงไฟล์ MKV กลับไปบ้าง ถ้าหากคุณมีไฟล์แบบ MKV อยากจะแปลงกลับไปเป็น AVCHD (m2ts) เพื่อบันทึกลงแผ่น DVD5 หรือ Blu-ray (คุณต้องมีแผ่น Blu-ray และเครื่องไรท์ด้วยนะครับ) เพื่อนำไปเล่นในเครื่องเล่น ก็ทำด้วยด้วยวิธีการในบทความนี้ครับ

วิธีการทำต้องอาศัยโปรแกรม
tsMuxeR http://www.videohelp.com/tools/tsMuxeR

โดยมีขั้นตอนการทำดังนี้

1. คลิกปุ่ม Add เพื่อนำไฟล์ mkv เข้ามาในโปรแกรม

2. คลิกเลือกรูปแบบไฟล์ที่จะทำ Blu-ray disk หรือ AVCHD disk ก็เลือกตามต้องการได้เลยครับ

3. คลิกปุ่ม Browse เพื่อกำหนดตำแหน่งสำหรับบันทึกไฟล์

4. คลิกปุ่ม Start muxing โปรแกรมจะเริ่มสร้างไฟล์ให้ทันที




###จบแล้วครับ##